รายได้แบบ Commission or Passive Inocme อย่างไหนดีกว่ากัน เรื่องนี้คงไม่มีอะไรผิดหรือถูก มันขึ้นอยู่หลายปัจจัย ถ้า commision มันได้เป็นก้อนใหญ่ก็สบายไปทั้งชีวิต แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ดังนั้นไม่ว่าท่านทำธุรกิจอะไร ตอนนี้คู่แข่งเต็มไปหมด? น้อยมากที่ใครคนใดคนหนึ่งจะเจอธุรกิจที่เป็น Blue Ocean แต่ก็ยังมีธุรกิจหนึ่งที่ไม่เคยมีวันตาย นั่นคือธุรกิจนายหน้า เพราะเป็นการทำงานที่ใช้ทุนน้อย ไม่ต้องผลิตสินค้าเอง ขายสินค้าให้คนอื่นกินค่าคอมมิชชั่น และธุรกิจนี้ก็เติบโตสามารถทำเงินหลักหลายสิบหลายร้อยล้านได้เช่นกันน่ะครับ นายหน้าตอนนี้มันมี scope ที่กว้างมาก ทั้งนายหน้าแบบเดิม และ นายหน้าแบบ Online หรือ Affiliate Marketing แต่ในบทความนี้จะแนะนำธุรกิจที่คล้าย ๆ กับนายหน้า แต่ไม่ใช่นายหน้า ทำรายได้ดีกว่าและยาวนานว่าค่าคอมมิสชั่น ลองอ่านดูให้จบนะครับ
ผมยกตัวอย่างกรณีหนึ่งเป็น Head Hunter หรือเป็นนายหน้าจัดหา ผู้บริหารมืออาชีพป้อนองค์กรขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าบริษัทฯ เหล่านี้อาจจะเริ่มต้นด้วยตัวคนเดียวเอง ตอนแรกอาจจะเป็นลูกจ้าง และผันตัวเองมาตั้งบริษัทเอง เพราะมี data อยู่ในมือพอควร ประสบการณ์มี connection มีก็ต่อยอดทำได้ทันที กลุ่มคนเหล่านี้จะรู้หมดว่ามืออาชีพสายต่าง ๆ อยู่ที่ไหนเช่น คนที่เก่งที่สุดเรื่องการขุดเจาะแก๊สธรรมชาติ มีกี่คนในประเทศไทย มีใครบ้าง สายพัฒนาธุรกิจให้แบรนด์ต่าง ๆ มีกี่คนในประเทศไทย ใครทำงานอยู่ตรงไหนบ้าง ฯลฯ องค์กรต่าง ๆ แม้ว่าเขาจะมี HR แต่สมัยนี้มันจะง่ายกว่าที่จะให้ทาง HR กลั่นกลองมาอีกที และ ทางฝ่ายผู้ถูกว่าจ้าง ก็รู้สึกสบายใจกว่าในการ deal งานกับ Head Hunt เพราะใช้ Head Hunt เป็นคนกลางต่อราคา ค่าตัว เงินเดือน โบนัสฯลฯได้ บริษัทฯเล็ก ๆ ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการ ในระดับ 15 -20 ปี มีรายได้ปีละ 100+ล้านเลยน่ะครับ ทั้ง ๆ ที่ต้นทุนการบริหารจัดการน้อยมาก กลุ่มนี้ปัญหาที่ยากที่สุดคือ ระบบภาษีรายได้ครับ เพราะรายได้สูงแต่ค่าใช้จ่ายต่ำ จึงทำให้เสียภาษีสูงมาก
เอาแบบใกล้ ๆ ตัวเลยเลยธุรกิจอสังหาฯ ซื้อขาย บ้าน ที่ดินก็มีนายหน้าเต็มไปหมดจริงไหมครับ? เพราะมันเป็นธุรกิจที่ใคร ๆ ก็ทำได้ง่าย ๆ มันไม่ต้องมีข้อมูลเชิงเทคนิคอะไรมากมาย แต่มีทุก ๆ ธุรกิจ อุปสรรค การทำธุรกิจนายหน้าก็ย่อมมีอุปสรรค์หลายอย่างเช่นกัน มีนายหน้าที่ประสบความสำเร็จอยู่มากมาย พร้อมกับมีนายหน้าอีกจำนวนมากที่ล้มเลิกไป เพราะการแข่งขันสูง เช่นการแข่งขันกับนายหน้าด้วยกันเอง ผู้ซื้ออยากจากถูกหาทางติดต่อกับเจ้าของที่ดินเอง แอบไปคุยกันเอง ฯลฯ ดังนั้นการเป็นนายหน้าอสังหาฯ จึงมันจะเป็นในรูปแบบของบุคคลมากกว่าเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าใหญ่ไปเลยก็เป็นระดับชาติไปเลยเช่น CBRE, JLL สองบริษัทนี้ถือว่าเป็นรายแรก ๆ ในประเทศไทย และจะรับงานใหญ่คือขายโครงการไปเลยทั้งในรูปแบบ office หรือ shopping mall หรือเรียกว่าเป็น Sole Agent รับทั้งค่านายหน้าเป็นรายเคส และ ค่า retainer รายเดือน กลุ่มบริษัทฯ ระดับชาติใหญ่ ๆ เหล่านี้เขาจะได้เปรียบ เพราะเขามีเครือข่ายโยงใยไปทั้งโลก ดังนั้นเขาส่งต่อลูกค้าให้กันได้ นักลงทุน หรือ ผู้ประกอบการใหม่ที่จะมาลงทุนในประเทศไทย สิ่งแรกที่เขาจะวิ่งเข้าหาก็คือกลุ่มบริษัท Broker เหล่านี้ เพราะง่าย และสะดวกที่สุด พนักงานทุกคนสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดีเป็นต้น
แต่ยังมีธุรกิจอีกแบบหนึ่ง ก็คือคล้าย ๆ กับเป็นนายหน้าเหมือนกัน แต่ไม่ใช่นายหน้า ยังไม่มีคำศัพท์เฉพาะในงานตัวนี้ในประเทศไทย สามารถเรียกได้ว่า ผู้ประกอบการธุรกิจให้เช่าพื้นที่เพื่อการค้าปลีกนี้ หรือธุรกิจเช่าช่วง ธุรกิจนี้เกิดขึ้นมาจริง ๆ จัง ๆ น่าจะไม่เกิน 15 ปีที่ผ่านมานี้เอง และรับรู้กันในวงแคบ ดังนั้นคู่แข่งแทบไม่มีเลยเพราะหลายคนมองว่ามันเป็นเหมือนวงการที่เข้ายาก หรือ คาดไม่ถึงว่ามันมีอยู่จริง หรือบางคนคิดว่ามันเอื้อมไม่ถึง แต่จริง ๆ แล้วมันอยู่ใกล้ตัวมาก มันเป็นธุรกิจที่ไม่ได้ยากเลย เพียงแต่คนมองข้าม มันไม่ใช่ธุรกิจกินค่านายหน้า แต่มันเป็นธุรกิจที่กินส่วนต่างไปจนหมดอายุสัญญาเช่า เช่นคุณทำนายหน้างานเสร็จคุณรับเงินแล้วจบ แต่ธุรกิจให้เช่าช่วงนี้ งานจบแต่รับเงินไม่จบ รับทุก ๆ เดือนตลอดไปจนเลิกเช่า และ มันจึงเป็นธุรกิจที่สร้าง passive income ที่กินไปต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 9 ปี ลองคำนวณเล่น ๆ ดูนะครับ
ถ้าคุณขายบ้าน 1 หลังราคา 3 ล้านบาท คุณได้ค่าคอมมิชชั่น 3% คุณจะมีรายได้ 90,000 บาท ครั้งเดียว จากนั้นก็ต้องไปหาเหยื่อรายใหม่ ขายใหม่ เมื่อไรคุณหยุดหา รายได้ก็หดทันทีถูกไหมครับ?
แต่คุณทำธุรกิจเช่าช่วง 1 สัญญา มีส่วนต่างแบบต่ำ ๆ สุดเลย 10,000 / ต่อเดือน หรือ 1,020,000 บาท / ปี ทำธุรกิจแบบไม่ต้องมีหัวหน้า และ ลูกน้อง แถมยังมีเวลาไปทำกิจกรรมที่ตัวเองชื่นชอบได้อีกสบาย เพราะสมัยนี้การจ่ายค่าเช่าก็เป็นการโอนเงิน การเซ็นสัญญาก็ 3 ปีเซ็นต์ครั้งหนึ่ง
- 3 ปีคุณมีรายได้ 360,000 / 1 สัญญา
- 6 ปีคุณมีรายได้ 720,000 / สัญญา
- 9 ปีคุณมีรายได้ 1,080,000 / 1 สัญญา
จะเห็นว่าธุรกิจให้เช่าพื้นที่เพื่อการค้าปลีก คุณจะมี passive income แม้บ้างปีคุณไม่มีสักสัญญา แต่สัญญาเดิม ๆ ที่เคยทำไว้ก็จะสร้างรายได้ให้คุณได้ไม่สิ้นสุด หรือต่อให้คุณหยุดที่จะทำเพิ่ม คุณก็จะยังมีรายได้เข้ามาไม่ขาด หลายคนคิดว่าความรู้ไม่ถึง และ ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ไม่เก่งคอมพิวเตอร์ แต่เชื่อผมไหมครับ คนที่ไม่เก่งคอมพิวเตอร์ ไม่รู้ภาษาอังกฤษ มีแต่ใจสู้อย่างเดียว รับเงินเดือนละเป็นหลักแสนก็หลายคนครับ สำคัญที่สุดคือการแข่งขันต่ำ และ ความต้องการสูงมากในท้องตลาด อยู่ที่เราจะเริ่มทำหรือไม่ ธุรกิจนี้ทำได้ทุกคนครับ ที่กำลังทำงานประจำอยู่ หรือ เกษียณแล้วก็ยังทำได้ครับ
มีบางท่านอยู่ในธุรกิจนายหน้าอสังหา มาก่อนและเลือกที่จะมาเดินสายการค้าปลีก (หรือหาพื้นที่ทำเลสวยส่งให้แบรดน์) ทำไปทำมาเจ้าของที่ดินที่เป็นเศรษฐีใจดีเปิดโอกาสให้ทำเอง พร้อมกับบอกว่าคุณจะวิ่งไปหาให้คนอื่นรวยทำไมละ? ถ้าคุณทำเองผมจะสนับสนุน และ ตอนนี้นายหน้าคนนั้นก็เป็นผู้ประกอบการ เป็นเจ้าของอาคารให้เช่าที่มีรายได้เดือนละเหยียบ ๆ 1 ล้านบาทไปแล้วครับ ธุรกิจนี้มีโอกาสสูงและในในเว็บของเราก็จะเน้นในเรื่องนี้ และจะเอามาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นกำลังใจให้สู้กันต่อไปนะครั น่าสนใจไหมครับ? ถ้าสนใจติดตามเว็บเราเรื่อย ๆ นะครับ