นี่คือคำถามที่ถามบ่อย ๆ ผู้สอน ขอรวบรวม ถาม-ตอบมาให้ เพื่อจะได้ประหยัดเวลาและคลายข้อสงสัยครับ
Q : นี่คือธุรกิจอะไร?
A : นี่คือธุรกิจเช่าช่วง อาคาร ร้านค้าให้แก่ร้านค้าปลีก ที่เราเห็นอยู่รอบตัวเราเช่น ร้านแว่น ท๊อปเจริญ, Boots (บู้ทส์), Watsons (วัตสัน), CJ (ซีเจย์) Mr.Diy (มีสเตอร์ดีไอวาย) และอีกหลาย ๆ แบรนด์ที่กำลังขยายสาขาทั่วประเทศ
Q : เรียนอย่างไร แบบไหน?
A : เรียนออนไลน์ 100% ผ่านกลุ่มปิดบน Facebook เราทำเป็น 18 คลิปสอนวิธีการทำธุรกิจตั้งแต่แรก และ สำคัญที่สุดผู้เรียนสามารถปรึกษากับผู้สอนได้ตลอดผ่านการ Chat ผู้เรียนจึงเหมือนมีพี่เลี้ยง
Q : ค่าเรียนเท่าไร?
A : ช่วงนี้เป็นช่วงโปรฯ คิดค่าเรียนแค่ 990.- บาท หลังจากเต็มแล้ว ก็จะขึ้นราคาไปประมาณ 5,000 และเพิ่มการสอนเรื่องของ Stip Mall เข้าไปสำหรับผู้ประกอบการ
Q : มีการสัมนา ออกนอกสถานที่หรือไม่?
A : ไม่มี เพราะการสัมนา หรืออกนอนสถานที่ มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอีกมาก แต่สิ่งที่ผู้เรียนจะได้มีไม่ได้มากเพราะเสียเวลาในการเดินทาง แต่ในคอร์สออนไลน์ ผู้สอนสามารถทำคลิปมาสอนได้ตลอดหากมีการ update ในตลาด และ เปิดช่องให้สอบถาม จึงได้ประโยชน์กว่าสัมนาที่จัดแค่ไม่กี่ชั่วโมง
Q : รายได้ของธุรกิจนี้ คนทำจะได้อะไร?
A : รายได้คือส่วนต่างที่เราบวกเข้าไปเช่นเราได้ อาคารมาจากเจ้าของ ตกลงค่าเช่า 30,000 เราเอาไปเช่าช่วงให้แก่ร้านค้าแบรนด์ ตามที่ระบุข้างบนประมาณ 40,000 – 50,000 ส่วนต่างคือรายได้ที่เราจะได้
Q : แล้วจะเจ้าของตึกจะยอมให้เราเสียประโยชน์หรือ?
A : ถ้าเรียนในคอร์สแล้ว เราจะสอนวิธีเจรจา ให้ผลประโยชน์ลงตัวทุกฝ่าย ไม่มีฝ่ายไหนเสียผลประโยชน์ เพราะแท้ที่จริงแบรนด์เจรจากับเจ้าของตึกก็จะกดราคาจนติดดิน แต่ถ้าแบรนด์เจรจากับเรา ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ และ รู้จักกันเขาก็จะต่อราคาไม่ดุ ต่อแค่พองาม ท้ายที่สุดเจ้าของอาคารก็ได้ราคาดีจากเรายิ่งกว่าให้เช่าโดยตรงกับแบรนด์ด้วยซ้ำ
Q : แล้วเจ้าหน้าที่ของแบรนด์ เขาไม่ติดต่อเองหรือ?
A : ประเทศไทย 77 จังหวัด 878 อำเภอ แบรนด์ไม่สามารถที่จะมีเจ้าหน้าที่ประจำทุกจังหวัดได้ ยกเว้นบางแบรนด์ซึ่งก็ไม่ใช่แบรนด์ที่เราแนะนำ ดังนั้นโอกาสจึงมีสูงมาก และ แบรนด์เองก็ชอบมากที่จะมาคนมาช่วยนำเสนอพื้นที่มาให้ โดยที่เขาไม่ต้องจ่ายเงินเดือนและค่าคอมฯ
Q : แล้วแบรนด์เขาจะยอมหรือ ที่ต้องจ่ายค่าเช่าสูงขึ้น?
A : แบรนด์เขาไม่ได้สนใจหรอกว่าจะต้องไปเอาค่าเช่าให้ต่ำสุด แต่เขาสนใจว่าค่าเช่าเทียบกับทำเลที่ และยอดขายที่เขาประเมินแล้ว เขามั่นใจว่าทำได้ เขาก็จะเช่า เพราะแบรนด์ทุกแบรนด์ก็มีเป้าหมายจะต้องเปิดให้ได้ตามที่กำหนดไว้ในแต่ละปี เขาจะไม่เสียเวลามาต่อรอง
Q : ทำไมเจ้าของตึกไม่ติดต่อแบรนด์เอง?
A : มีบ้างที่ติดต่อเอง แต่เจ้าของตึกจะไม่รู้ว่าควรจะเป็นแบรนด์ไหนจะเหมาะ ค่าเช่าเท่าไร การติดต่อประสานงาน กระบวนการเหล่านี้มันจะต้องมืออาชีพเท่านั้น ซึ่งเราสอนในคอร์สนี้ แต่แน่นอนว่า เจ้าของตึกที่เรียนคอร์สนี้จะสามารถเรียนรู้ได้ทั้งหมด และ จะได้รับค่าเช่าเต็มเม็ดเต็มหน่วย
Q : ถ้าธุรกิจนี้ดีจริง ทำไมผู้สอนไม่ทำเอง?
A : ผู้สอนไม่ได้มีเวลามากพอที่จะทำ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ผู้สอนมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบงานผู้บริหารระดับสูง และมีธุรกิจอสังหาฯ ที่ทำอยู่จึงไม่ได้มีเวลาที่จะมาอย่างเต็มที่ ผู้สอนทำหยุดทำมาได้หลายปีแล้ว และยังรับ passive income จากธุรกิจนี้ แต่ไม่ได้ทำเพิ่มแล้ว อีกเหตุผลคือ ผู้สอนเคยช่วยคนที่ตกอับ มีหนี้สินพ้นตัวระดับเกือบ ๆ สิบล้านบาท ให้มาทำธุรกิจนี้ และตอนนี้เขาลืมตาอ้าปากได้ และ กลายเป็นนักธุรกิจอสังหาฯ ไปแล้ว
และอีกหลายๆ คนที่เคยสอนมาพบว่าเกิดได้จริง ผู้สอนก็เลยคิดว่ามีความสุขที่ได้แบ่งปันความรู้ให้ผู้อื่น มันคือการให้อย่างหนึ่ง เลยทำคอร์สออกมาในราคาที่เข้าถึงได้ และจึงไม่เหมาะสมที่จะต้องไปแข่งกับผู้เรียน การเห็นผู้เรียนประสบความสำเร็จจึงมีความสุขมากกว่า
Q : จะได้ค่าส่วนต่างค่าเช่านานเท่าไร?
A : ขึ้นอยู่กับผลประกอบการของธุรกิจของแบรนด์นั้น ๆ โดยส่วนใหญ่ขั้นต่ำที่สุดที่เคยพบคือ 3 ปี แต่น้อยมาก ส่วนใหญ่ที่ได้กันคือ 9-12 ปีโดยเฉลี่ย
Q : ใช้เวลานานหรือไม่กว่าจะสำเร็จ 1 เคส
A : โดยทั่วไปประมาณ 3 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่นบางแบรนด์เขาก็จะต้องใช้เวลาขออนุมัติจากต่างประเทศ อาจจะใช้เวลาเพิ่มขึ้นเป็น 4-5 เดือน และความขยันของเราด้วย
Q : ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในธุรกิจนี้คืออะไรบ้าง?
A : เรียกว่าน้อยมากส่วนใหญ่จะเป็นค่าเดินทาง ซึ่งทุกคนก็จะต้องเดินทางอยู่แล้ว แต่เราจะไม่แนะนำให้เดินทางไกล เพราะโอกาสมันมีอยู่ทุก ๆ ที่ เอาง่าย ๆ ว่าอำเภอไหนมีธนาคารเกิน 2 ธนาคาร อำเภอนั้นมีโอกาสสำหรับธุรกิจนี้ ค่าใช้จ่ายส่วนที่ 2 คือค่าเงินประกัน เราอาจจะต้องมีการสำรองจ่ายก่อน แต่ถ้าบริหารเวลาให้ดีก็ไม่ต้องจ่าย เช่นเราต้องจ่ายค่าเงินมัดจำการเช่า 3 เดือนแก่เจ้าของตึก และเราก็ไปเรียก 3-4 เดือนจากแบรนด์ในเดือนถัดไป เป็นต้น
Q : ถ้าจะปรึกษาเกี่ยวกับทำ Community Mall จะได้ไหม?
A : ได้ครับ Community Mall คือสิ่งที่ผู้สอนมีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะการวางยุทธศาสตร์ว่าจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ แต่จะไม่ลงไปเป็นที่ปรึกษา 100% เพราะไม่มีเวลาที่จะมารับงานใหญ่ จะรับเฉพาะการวิเคราะห์ทำเล วิเคราะห์ และ แนะนำยุทธศาสตร์ ที่ผู้ประกอบการคิดขึ้นมา อาจจะมีการแนะนำเพิ่มเติมตามความเหมาะสม สิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้คือ การลดความเสี่ยงได้มหาศาล เพราะผู้สอนรู้ว่าใครตัวจริง ตัวปลอมในโครงการ รู้จักแบรนด์ มี connection บริการนี้จึงเป็นเหมือนเป็นการช่วยมากว่า