หนังสือเล่มนี้ เป็นการสอนทำธุรกิจ สอนให้เป็นนักธุรกิจ
บอกลายแทงขุมทรัพย์ที่คนมองข้ามกัน และ วิธีการที่เขียนอยู่ในหนังสือเล่มนี้ เป็นวิธีการที่ใช้ได้สำหรับประเทศไทยเท่านั้น และ มีคนจำนวนน้อยมากที่รู้ว่ามันมีธุรกิจนี้อยู่ในประเทศไทย และ มันสร้างรายได้ที่เป็น Passive Income ได้จริงยั่งยืนเป็น 10 ปีขึ้นไป

หนังสือนี้ไม่ได้สอนให้คนเป็น “นายหน้า”
แต่สอนให้ผู้อ่านเป็น “นักธุรกิจ” ในแบบที่มีเงินหลักพันก็เริ่มได้ทันทีถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้จบ แต่ถ้าคนที่เป็นนายหน้าอยู่แล้วนำวิธีการมาปรับใช้ก็ยิ่งง่าย เพราะเทคนิคที่สอนอยู่ในหนังสือเล่มนี้เรียกได้ว่าไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ชี้ช่องทางให้เสร็จสรรพ พร้อม เปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารให้ในผู้ซื้อทุกคนเพื่อให้คำปรึกษา หลังจากออกปฏิบัติงาน

 ในเมื่อผมสร้างหนึ่งคนให้รวยได้แล้วทำไมผมจึงจะสร้างหลาย ๆ คนให้รวยไม่ได้
นี่คือคำถามของผม การช่วยคนมันอยู่ใน DNA ของผม ผมโตมาได้เพราะผมเอาความรู้เข้าไปแลก และให้ฟรี ๆ ก่อน จนได้รับการเอ็นดูจากผู้หลักผู้ใหญ่และเติบโตมาได้และตอนนี้ผมเห็นคนตกงานเยอะมาก และหลายคนพยายามมองหาช่องทางในการหาเงินกันเต็มไปหมด ผมจึงคิดว่าผมช่วยตรงนี้ได้ และผมจะดีใจมากที่มีคนสำเร็จและฟื้นชีวิตได้จากหนังสือเล่มนี้  ผมจึงปล่อยหมดเปลือก และยังไม่พอผมเปิดช่องให้คำปรึกษาแก่ทุกคนที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ด้วยครับ

ผมตัดสินใจเขียนอีบุ๊กเล่มนี้ขึ้นมา เพราะผมเห็นว่ามันถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว !
นั่นคือช่วง covid-19 ที่ผ่านมา กินระยะเวลาร่วมจะ 2 ปีแล้วที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงบริบทของธุรกิจไปอย่างเงียบ ๆ โดยที่คนข้างนอกอาจจะรู้ แต่ไม่ลึก นั่นคือตลาด 10 – 20 ปีที่ผ่านมาตลาดการค้าปลีก เป็นของนายทุน ขาใหญ่ จากส่วนกลาง ดึงร้านค้าทุก ๆ ร้านเข้าศูนย์ฯ ของเขา เก็บกินค่าเช่าเพลิน แต่หลังจากเกิด covid-19 เหตุการเริ่มเปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ

นั่นคือร้านค้าเช่าในห้างใหญ่ ๆ โดนกระทบจาก covid อย่างหนัก
บางห้างฯ ถึงขั้นปิด ถึงไม่ปิด แต่คนก็ไม่กล้าเดิน เพราะกลัว ทำให้ยอดขายของร้านค้าเช่าในห้างตกลงไปอย่างหนัก ในแบบที่ปรับตัวไม่ทัน จากยอดขายเดือนละ 4 ล้าน เหลือ 5 – 6 แสน แต่ค่าเช่า อาจจะได้ลดแค่ 20% – 30% จึงขาดทุนกันระนาว จึงเห็นประท้วงกันหลายห้างทำให้ร้านค้าเช่าจะต้องปรับตัว และ เปลี่ยนมุมมองขึ้นมาใหม่ นั่นคือถ้าทำธุรกิจแล้วได้มาเท่าไรก็จ่ายค่าเช่าไปเสียส่วนใหญ่ หรือ เมื่อไรที่ค่าเช่าคิดเป็นสัดส่วนเกินกว่า 15% ของยอดขายก็เหนื่อยแล้ว ก็เลยต้องมองทางทางออกใหม่ที่ค่าเช่าถูกกว่า แม้ว่าจะขายได้น้อย แต่คำนวนแล้ว อยู่ได้ และ มีอิสระในการบริหารจัดการมากกว่า

จึงเป็นเหตุให้มีโมเดล ธุรกิจนอกห้างขึ้นมา นั่นคือไม่ว่าจะเป็นตึกแถว ที่ดินเปล่า
แล้วสร้างโครงขึ้นมา งบตกแต่งก็เป็นแบบ Low Cost สรุปคือค่าเช่าเหลือไม่ถึง 50% ของที่จ่ายให้ห้างฯ ค่าตกแต่งก็เหลือไม่ถึงครึ่งของห้าง (เพราะห้างบังคับต้องแต่งให้สวย) เวลาขายก็มากกว่าในห้าง เพราะในห้างมีเวลาเปิด-ปิดที่เกาหนดชัดเจน เห็นไหมครับ มีข้อดีตั้งหลายข้อ 

ข้อเสียคือคนเดินน้อยกว่าในห้าง
แต่ว่ายุคนี้ร้านไหนก็ตาม เราไม่มีตัวตนบน online platform เราก็ไม่ควรอยู่ในธุรกิจแล้วจริงไหมครับ ดังนั้นใช้ online platform นั้นแหละเป็นตัวดึงคนมาซื้อที่ร้านแทน ใช้เงินหลักไม่เกิน 1 หมื่นคนก็ดึงคนได้มากมายแล้ว

นี่คือที่มาของโอกาสธุรกิจนอกห้าง ที่ผมมองว่ามันเป็นโอกาสมหาศาล
เพราะอะไรครับ เพราะว่ามันจะเป็นลักษณะยิบย่อย และกระจายไปทั่ว ทำให้ไม่เป็นที่น่าสนใจของนักธุรกิจขาใหญ่ หรือ พวกห้างใหญ่จะลงมาเล่น พอนักลงทุนรายใหญ่ไม่เล่น จึงแทบไม่มีใครเล่น คนที่มาทำงานเกี่ยวกับเรื่องการเช่าพื้นที่ค้าปลีกในประเทศไทยนี้ ผมเชื่อว่ามีไม่เกิน 50 คน ถ้าไปเทียบกับนายหน้าที่ทำงานเรื่อง ที่ดิน บ้าน คอนโด ผมว่าทั้งประเทศมีเกิน 1 ล้านคน เห็นสัดส่วนไหมครับ ต่่างกันเยอะเลย นั่นหมายถึงคู่แข่งน้อย แต่โอกาสมากในธุรกิจเช่าช่วงนี้

ในหนังสือเล่มนี้ ผมไม่ได้สอนให้เป็นนายหน้า เพราะผมมองว่าธุรกิจนายหน้า
เป็นเหมือนหมาไล่นเนื้อที่ ต้องวิ่งหาเหยื่อยู่ตลอดเวลา แต่ผมสอนให้เป็นผู้ประกอบการโดยเริ่มต้นจากเล็ก ๆ โดยการติดต่อเช่าตึกที่ทำเลดี มีศักยภาพ (ที่คนอื่นมองไม่เห็น) แล้วนำมาปล่อยเช่าต่อให้แก่ร้านค้าแบรนด์เนมดัง ๆ เช่น Mini Big C, Tesco Express, Mr.DIY, Boots, Watsons, Amazon, KFC, Pizza, Burker King, ร้านขายยา ฯลฯ หรือร้านค้าอื่น ๆ ที่เปิดอยู่ตามท้องตลาด

ผมจะสอนให้เน้นแบรนด์พวกนี้ เพราะมีฐานการเงินที่แข็งแรง แบรนด์พวกนี้เช่าต่อได้นานเกิน 10 ปีแทบจะทุกราย
เช่า่กินส่วนต่างไปที่ละสัญญา แล้วค่อยโตไปเรื่อย ๆ ขอให้ได้สัก 20 สัญญา ก็ถือว่าเป็น passive income ที่มั่นคงแล้ว นั่นคือเป้าหมายของผม ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จึงสามารถนำไปปฏิบัติได้เลยไหม? ถือว่าอ่านแล้วสามารถเริ่มธุรกิจได้ทันทีพรุ่งนี้เช้า

นี่ไม่ใช่หนังสือวิชาการ แต่เป็นการสอนแบบเนื้อ ๆ เพียงแค่ 50 หน้า
คนที่อ่าน อาจจะใช้เวลาคิดแค่ 1 ชั่วโมงก็เข้าใจและทำงานได้ทันทีมูลค่าของหนังสือเล่มนี้ นอกจากเนื้อหาที่ระบุไว้ใน E-Book เล่มนี้แล้ว สิ่งที่ทำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ Social Community ที่ผมจะดึงทุกคนเข้าไปอยู่ในกลุ่ม VIP ที่จะทำให้สามารถเอาความรู้มาแบ่งปันกันให้คำปรึกษาฟรี ๆ จะได้เติบโตไปพร้อมกันครับ เพราะข้อมูลเหล่านี้มัน update อยู่ตลอดเวลา

ธุรกิจค้าปลีกนี้ถ้าได้เข้ามาอยู่วงกาาร จะสนุกมาก และ เนื่องจากไม่มีสอนในมหาวิทยาลัย หรือมีก็เป็นที่ต่างประเทศ นำความรู้นั้นมาใช้ในเมืองไทยไม่ได้

 คนที่มีปริญญาระดับด๊อกเตอร์ หลายคนก็จบไม่สวยในวงการค้าปลีกเช่นกัน
เพราะความรู้ทางวิชาการที่มีมา แทบจะเผาทิ้งทั้งหมดเลย มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ + การคิดเชิงวิเคาระห์ + การเข้าถึง + ความรู้รอบตัว หลาย ๆ อย่างมาประกอบกัน ไม่ใช่การกางทฤษฏี มาเล่นในวงการนี้ ผมจึงเชื่อมั่นว่ามูลค่าของหนังสือเล่มนี้แม้ไม่เท่ากับค่าเรียนในมหาวิทยาลัย แต่สิ่งที่ผู้เรียนได้รับ และจ่ายค่าหนังสือระดับ ไม่ถึง 1,000 บาท  แทบจะไม่ต่างกัน หรือเผลอ ๆ อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะผมสอนให้คนเป็นนักธุรกิจ ไม่ได้สอนให้ไปเป็นลูกจ้าง

ธุรกิจนี้ ถ้าท่านได้อ่านทั้งหมด ผมยืนยันว่ามันไม่ยากแน่นอน
ยิ่งในยุคนี้ที่มีสื่อมากมายที่ท่านสามารถเข้าถึงแบรนด์ (ร้านค้าระดับใหญ่) แบบง่าย ๆ เพราะ แบรนด์เอง เขาก็ไม่ได้ยึดติดว่าต้องติดต่อกับใคร ตราบเท่าที่ข้อเสนอของเราตรงกับความต้องการของเขา งานก็จะสำเร็จ พอสำเร็จโครงการแรกโครงการต่อ ๆ ไปมันจะยิ่งง่ายมากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ มันสำคัญที่ท่าน “เอาจริง” แค่ไหนแค่นั้นเอง!